05 ตุลาคม 2554

มีคนถามว่า "คุณมีประสบการณ์อย่างไรเกี่ยวกับคนพิการ"

หากประสบการณ์ คือสิ่งต่างๆ ที่เราเผชิญมาในอดีต คำตอบของคำถามง่าย ๆ
ประสบการณ์ คือ ดิฉันเป็นคนพิการค่ะ
แต่ถ้าถามว่า คุณเคยทำงาน หรือ องค์กรการกุศลใดที่เอื้อประโยชน์กับคนพิการบ้างไหม
คำตอบคือ เคย ถึงไม่ว่าจะไม่เต็มตัว แต่ ก็พยายามทำด้วยใจ แม้จะไม่มีเวลาให้เต็มร้อย แต่ก็ทำทุกอย่างด้วยใจ ขอเพียงมีโอกาสเท่านั้น

อย่าง งาน ของArt for All ที่เคยเข้าไปทำข่าว ที่จ.พะเยาเมื่อหลายปีก่อน เป็นประสบการณ์ที่มีค่ามาก ในการเรียนรู้ ขั้นตอน แบบอย่าง กระบวนการทำงาน และ ได้มีโอกาสพูดคุย กับ ผู้ทรงคุณวุฒิ วัยวุฒิ มากมาย ทุกๆคน ทุกท่าน ทำงานด้วยจิตอาสา มีความสุขกับการให้ เป็นไปได้ ดิฉันจะกลับไปทำอีก อยากให้กิจกรรม ของArt for All ดำรงอยู่ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ร่วมกัน

แต่ ในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับ คนพิการ ก็น่าจะเป็น การเป็นครูอาสาให้กับโรงเรียน สันทราย อ.แม่สาย จ.เชียงรายเมื่อหลายปีก่อน ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ดิฉัน ก็ภูมิใจและมีความสุขที่ได้ทำประโยชน์แก่สังคม ได้ถ่ายทอดได้แบ่งปัน ความรู้ และปลูกฝัง ทัศนคติอันดีแก่เด็กและเยาวชน ถึงแม้ว่า จะไม่ได้ทำงานด้านการศึกษาเต็มตัว แต่ดิฉัน ก็ยังหวังใจว่า ถ้ามีโอกาสเมื่อไรอีก ดิฉัน ก็จะทำให้สังคมนี้ มีอะไรดีๆ เกิดขึ้น

ล่าสุด ดิฉัน ได้พูดคุย กับเพื่อนรักที่สุดของดิฉัน คือ เอริ์ธ ณธกมล รุ่งทิม เพื่อนที่ดิฉันรักมากที่สุด และ เป็นเพื่อน ที่เป็นขวัญและกำลังใจ เป็นผู้ให้และผู้แนะนำที่ดีเยี่ยม เป็นคนที่มีกำลังใจ และ กำลังสติปัญญาที่เป็นเลิศ เอริ์ธเป็นคนพิการ ที่มีหัวใจ เข้มแข็งเกินร้อย และ เราก็มีแนวคิดเดียวกัน ที่อยากปลุกหัวใจ เพื่อนคนพิการอื่นๆ ที่หลับไหล ให้ตื่นขึ้นมารับเช้าวันใหม่ ด้วยหัวใจ ที่แช่มชื่น มากกว่า ปิดขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง ไม่ยอมพบปะผู้คนและมีทัศนคติที่ไม่ดีกับตัวเอง กับ ความพิการา เราเคยพยายามปรุงระดมความคิด และ ปัญญา กับเพื่อนๆ คนพิการด้วยกัน ให้เขาออกมาทำงาน และ หากิจกรรม ทำร่วมกัน ในทางสร้างสรรค์ แต่ หลายครอบครัว ก็ยังไม่ให้การสนับสนุนหรือเปิดใจเท่าใดนัก มักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "พิการอย่างนี้ จะไปทำอะไรได้" หรือ " อย่าทำอะไรเลย ลำบากสังขารเปล่าๆ" หรือ ถ้อยคำใดๆ ก็ตาม ที่เป็นการแสดงความรักให้กับคนพิการแบบผิด ทำไมเราไม่คิดสร้างกำลังใจ และ เริ่มต้นชีวิตใหม่ให้กับตัวเอง ดิฉันเคยคุยกับเอริ์ธว่า ถึงแม้ว่าเราจะพิการ แต่เราก็ไม่คิดงอมืองอเท้า หรือ ขี้เกียจสันหลังยาว ไม่เคยคิดเบียดเบียนสังคม ไม่เคยเรียกร้องว่าสังคมต้องให้อะไรเรา แต่เราเองต่างหาก ที่ต้องคิดว่าจะให้อะไรสังคมบ้าง ประสบการณ์ชีวิตของเรานี่แหละ ที่สำคัญ ถ้าเรามีโอกาสได้ถ่่ายทอด ประสบการณ์ และแบ่งปันความคิดดีๆ ให้กันและ  ปรับเปลี่ยน ความคิดในทางลบของผู้คน เสียใหม่ ความพิการ ก็ไม่เป็นอุปสรรคในดำเนินชีวิตอย่างมีสันติสุข และ มีความสุข  เป้าหมายของเรา คือ ทำอย่างไร ให้คนพิการ มีหัวใจที่ไม่พิการ ทำอย่างไร ที่จะทำให้ความพิการเป็นพลังพิเศษที่จะให้สังคมดีขึ้น ทำอย่างไร ที่จะให้ คนพิการ ครอบครัว ของคนพิการ และ คนในสังคม มีมุมมองเกี่ยวกับคนพิการที่สร้างสรรค์มากขึ้น ทำอย่างไร ที่จะให้คนพิการ ยื่นหยัดอยู่ในสังคม นี้ ด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง และมีชีวิตที่มั่นคง

คนๆ เดียวไม่สามารถทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างสำเร็จได้ สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องมีเพื่อน ร่วมอุดมการณ์มาสานต่อ เพิ่มเติมและสนับสนุนเอื้อประโยชน์เพื่อทำคุณให้สังคมร่วมกัน ทุกสิ่งจึงจะสำเร็จได้

หากองค์กรการกุศล หรือ หน่วยงานคนพิการใดๆ มีพันธกิจ และ วัตถุประสงค์ช่วยเหลือคนพิการ พัฒนาสังคม ขอให้ติดต่อดิฉันได้ที่ Poymumj@gmail.com,apgcm08@gmail.com หรือโทรศัพท์สอบถามกันได้ที่ 086-9191110 เราอยู่ในสังคมเดียวกัน คุณอาจจะมีภารกิจ และ ต้องรับผิดชอบในหน้าที่การงานประจำของคุณอยู่ แล้ว ก้ไม่เห็นมีอะไรเป็นอุปสรรค ที่เราจะสร้างโอกาส สร้างชีวิต และ เป็นกำลังใจให้กับเพื่อน ในสังคมนี้ด้วยกัน จัดสรรเวลาของคุณให้พร้อมแล้วเรามาช่วยกันทำสังคมนี้ให้น่าอยู่่ และมาทำตัวให้มีค่าที่อยู่ในสังคมนี้อย่างเต็มภาคภูมิ

ชีวิตใหม่สดทุกเช้า

เราตื่นนอนมาด้วยความรู้สึกอย่างไร เหมือน หรือ แตกต่างกันแค่ไหนในแต่ละวัน

สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตเราคืออะไร เราคือใครในสังคมนี้ และเรามีเป้าหมายอะไรในวันข้างหน้า

จะมีค่าแค่ไหน ถ้าเรารู้จักให้ และ แบ่งปัน คุณเชื่อเรื่องธรรมชาติย้อนกลับไหม ย้อนกลับอย่างไร

อย่างเช่่น  ง่าย ตื่นเช้ามาคุณอยากสดชื่่นแจ่มใส อยากเห็นรอยยิ้มทักทาย ของคนที่คุณรัก ของคนรอบข้างยามเช้า เริ่มจากการ ตื่นนอน เข้าห้องน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน มองตัวเองในกระจก (คุณเคยยิ้มให้ตัวเองบ้างหรือเปล่า หรือคุณทำหน้าง่วงแล้วพร่ำบ่นอยู่ในใจ ถึงภาระ อันแสนเหนื่อยหน่าย ออกไปอย่างไรกลับมาอย่างนั้น มันเป็นธรรมชาติย้อนกลับ ที่คุณให้แล้วคุณจะได้รับ เช่นกัน ทุกเรื่อง ยิ่งคุณรับมากเท่าไร และยิ่งใจคุณไม่คิดให้ใครเท่าไร เห็นแก่ตัวเท่าไร ในไม่ช้าผลลัพท์ ก็คือ คุณจะถูกริบไปจากทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณได้มาโดยไม่แบ่งปันใคร

อยากให้คนทำดีกับเรา แล้วเราทำดีกับใครบ้างไหม อยากให้คนอื่นใส่ใจในตัวเรา แล้วถามสักคำ แล้วเราเคยใส่ใจใครบ้างหรือเปล่า วันๆ หนึ่ง เราเคยทบทวนตัวเองถึงการกระทำและสิ่งที่เกิดขึ้น ในแต่ละวันบ้างหรือไม่ หรือ ปล่อยลมหายใจเข้าออกไปตามกรรม ทำทุกอย่างตามใจ อย่างไรเป้าหมาย แบบตายไปไม่มีใครเห็นค่า ไม่มีใครคิดระลึก อาลัยอาวรณ์  ถามสั้นๆ "เราทำชีวิตให้มีค่า พอหรือยัง" .....................................................................เราต้องทบทวน..........................................................บทเรียนชีวิตทุกวันเวลา และจะพบว่า คำตอบของชีวิตในทุกปัญหามีคำตอบ มีทางไป และวิธีแก้ไขเสมอ


06 มกราคม 2554

ขาเทียมข้างใหม่ ที่ไม่ใช่แค่ฝัน

ตอนนี้ ปอยได้มัดจำการสั่งซื้อ ขาเทียม กับ OTTO B  แล้วล่ะ

ดีใจที่ไม่ถึงแสน นะเนี่ย เฮ้อ มิงั้นคงไม่มีทางเป็นไปได้แน่ๆ

คาดว่า จะต้องไปทำหลังจากงานซาลงบ้างแล้ว หลังสงกรานต์ปี นี้

ดีใจจังเลย ก่อนอื่น ต้องรีบเตรียมค่าเดินทาง กับ วางแผนลางานไปทำขาซะแล้ว